วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567

รหัส7010903067จะนำคุณไปสู่ความสำเร็จที่ง่ายกว่า

 รหัส7010903067นำคุณไปสู่ความสำเร็จที่ง่ายกว่า

ความฝันต้องการการลงมือทำ

ความฝัน เป็นจุดเริ่มต้นของผลลัพธ์ทั้งปวง มีคนเปรียบความฝันว่าเป็นเหมือนก้อนเมฆที่ล่องลอยบนท้องฟ้าไปมา เปลี่ยนรุปร่างได้เรื่อยๆตามเหตุปัจจัย

บางคนจับความฝันมากลั่นเป็นเป้าหมายได้ บางคนจับความฝันได้บ้างไม่ได้บ้าง บางคนจับความฝันของตัวเองไม่ได้เลย ผลลัพธ์ในเหตุการณ์ของสามคนข้างต้นนี้ย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคนที่มีเป้าหมายชัดเจน เขาจะมีพลังในการสร้างงาน สร้างชีวิตมากกว่าคนอื่นๆ

ถ้าอยากพบความฝันของตัวเองได้ใหม่อีกครั้ง มีคนแนะนำให้ลองเขียนจดหมายถึงตัวเอง 3 ฉบับ

ฉบับที่ 1  เขียนถึงความฝันของตัวเองตอนเป็นเด็กว่า เราเคยมีความฝันอะไร
ฉบับที่ 2  เขียนถึงความฝันของตัวเองตอนเป็นหนุ่มสาวว่า เรายังไม่ได้ทำสิ่งที่อยากทำอะไรบ้าง
ฉบับที่ 3  เขียนถึงความฝันของตนเองในอนาคตว่า เรายังต้องการอะไรในชีวิตที่เหลืออยู่

เขียนจนครบ 100 ความฝัน แล้วกลั่นกรองจนเหลือ 10 ความฝัน จากนั้นเลือก 1 ความฝันอันแรงกล้า เมื่อพบความฝันและเป้าหมายของชีวิตแล้วให้นำมาผสานเป็นหนึ่งเดียวกับเป้าหมายในธุรกิจแอมเวย์ จะเกิดเป็นพลังเชื้อเพลิงอย่างดีในการลงมือทำ

การลงมือทำอย่างมีวินัยและต่อเนื่องบนเป้าหมายที่ชัดเจนบนความฝันที่เราเลือกแล้ว จะส่งผลสู่ความสำเร็จนั้นได้แน่นอน เพราะ “กล้าลงมือทำสำคัญกว่าลังเล” เมื่อยิ่งทำมากยิ่งทำง่าย ยิ่งทำง่ายยิ่งมั่นใจ ยิ่งมั่นใจยิ่งทำได้ และเมื่อทำได้ก็มีคนอยากทำตาม เมื่อมีคนทำตามมากขึ้นๆก็จะเติบโตอย่างยั่งยืน

A70 เป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่นักธุรกิจแอมเวย์ระดับเพชรทั่วโลกจะไปรวมกันเพื่อฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ร่วมกันแล้วพบกันที่ปลายทางของความสำเร็จ


วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ผิวหนัง

 โครงสร้างผิวหนัง
 ผิวหนังจัดว่าเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย และจะห่อหุ้มร่างกายเราไว้ทั้งหมด ทำหน้าที่ปกป้องอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ใต้ลงไป จากความร้อน แสง การติดเชื้อ และสภาพแวดล้อมทั้งหลาย   นอกจากนี้มันยังทำหน้าที่ ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ เป็นที่กักเก็บน้ำและไขมัน มีปลายประสาทรับรู้ความรู้สึกป้องกันการสูญเสียน้ำป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
       ผิวหนังทั่วทั้งร่างกาย จะมีความแตกต่างกันไปทั้งสี ความหยาบละเอียด และความหนา   ยกตัวอย่าง ที่ศรีษะจะมีรากผมอยู่มากกว่าที่อื่น   ในขณะที่ฝ่ามือและฝ่าเท้าไม่มีเลย   แต่จะมีความหนาของชั้นผิวที่มากกว่า เป็นต้น
       ผิวหนังประกอบไปด้วยชั้นต่างๆ ซึ่งแต่ละชั้นก็มีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป ดังนี้
ชั้นอีพิเดอมีส (Epidermis)
ชั้นเดอมิส (Dermis)
ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutneous fat layer)
ชั้นอีพิเดอมีสชั้นนอกสุดของผิวหนัง ชั้นนี้เรียกกันง่ายๆ ว่า หนังกำพร้า ประกอบด้วย 3 ส่วน:-

สเตรตัม คอร์เนียม (Stratum Corneum) เรียกเข้าใจง่ายๆ คือชั้นขี้ไคล   ชั้นนี้จะประกอบไปด้วยเซลล์คีราติโนไซต์ (Keratinocytes) ซึ่งจะผลิตสารเคอราติน (Keratin) และเคอราตินนี้เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น   ชั้นนี้จะป้องกันสิ่งแปลกปลอมภายนอกไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย   นอกจากนี้ ยังป้องกันการสูญเสียของน้ำออกจากร่างกายด้วย

ชั้นขี้ไคลนี้ ถ้าเกาะติดกันแน่นและไม่ลอกหลุดตามเวลาที่ควร ก็จะไปอุดตันตามรูขุมขนได้ เป็นที่มาของสิวเสี้ยน และเป็นสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบตามมาได้   ดังนั้นการใช้กรด AHA ก็จะไปเร่งการผลัดเซลล์ผิวในชั้นนี้ได้ จึงช่วยลดสิวเสี้ยนลงได้

เซลล์คีราติโนไซต์ (หรืออีกชื่อ สความาสเซลล์ - Squamous cell) ถ้าเรียกแบบชาวบ้านก็คือ หนังกำพร้านั่นเอง ชั้นนี้จะอยู่ถัดใต้ชั้นสเตรตัม คอร์เนียมลงไป   เป็นชั้นเซลล์คีราติโนไซต์ที่มีชีวิต และเป็นเซลล์ที่มีอายุโตเต็มวัย ซึ่งพร้อมจะกลายสภาพไปเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว (ซึ่งก็คือชั้นสเตรตัม คอร์เนียม) และหลุดลอกกลายเป็นขี้ไคล

ชั้นเบเซิล (Basal Layer) เป็นชั้นที่ลึกที่สุดของชั้นอีพิเดอมีส ที่ชั้นนี้จะมีเบเซิลเซลล์อยู่ และแผ่คลุมต่อเนื่องกันตลอด   เบเซิลเซลล์นี้จะแบ่งตัวและสร้างเป็นเซลล์คีราติโนไซต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทดแทนเซลล์คีราติโนไซต์ที่เสื่อมสภาพกลายไปเป็นชั้นสเตรตัม คอร์เนียม
       ในชั้นอีพิเดอมีสนี้จะมีเซลล์เมลาโนไซต์แทรกตัวอยู่ ซึ่งเซลล์เมลาโนไซต์นี้จะเป็นตัวที่ผลิตเม็ดสีเมลานิน (ทำให้เกิดสีผิว)

      โดยปกติเซลล์ชั้นหนังกำพร้า จะมีการผลัดเปลี่ยนกลายเป็นขี้ไคลตลอดเวลา และหลุดลอกออกไปตามธรรมชาติ   ตามรูป (1) คือเซลล์ชั้นเบเซิล จะแบ่งตัวและเติบโตกลายเป็น เซลล์คีราติโนไซต์ ซึ่งเซลล์ที่เกิดใหม่ (2) จะอยู่ด้านล่าง เมื่อเซลล์คีราติโนไซต์แก่ตัวก็จะถูกดันขึ้นอยู่ด้านบน (3) จากนั้นก็ตายกลายเป็นชั้นสเตรตัม คอร์เนียม ซึ่งก็คือชั้นขี้ไคล (4) นั่นเอง
      ผิวหนังในเด็กขบวนการนี้จะเกิดขึ้นเร็ว ทำให้เด็กมีผิวหน้าใส, เรียบเกลี้ยง   แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระบวนการดังกล่าว จะเกิดขึ้นช้าๆ ทำให้การผลัดเซลล์ผิวช้าลง ขี้ไคลก็จะพอกหนาขึ้น
       เมื่อมีปัจจัยภายนอกต่างๆ มาเสริม เช่น โดนแสงแดดบ่อย, มลพิษ, สารเคมี, สูบบุหรี่ ก็จะไปเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น   ทำให้ผิวหยาบกร้าน, มีรอยด่างดำ, ตกกระ, ฝ้า รอยเหี่ยวย่น ผิวหน้าแลดูหมองคล้ำ ไม่สดใส
ชั้นเดอมีส เป็นชั้นที่อยู่ตรงกลาง จัดว่าเป็นชั้นหนังแท้ ที่ชั้นนี้จะมี หลอดเลือดขนาดเล็ก มาหล่อเลี้ยง
ท่อน้ำเหลืองรากขนต่อมเหงื่อเส้นใยคอลลาเจน
เซลล์ไฟโบรบลาส (Fibroblast) ซึ่งเป็นตัวที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin)เส้นประสาท
       ชั้นเดอมีสนี้จะถูกยึดเข้าหากันด้วยเส้นใยคอลลาเจน   ชั้นนี้จะมีปลายประสาทรับความรู้สึกเจ็บและสัมผ้สชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
       เป็นชั้นที่อยู่ลึกที่สุด   ชั้นนี้จะมีเครือข่ายของเส้นใยคอลลาเจนและเซลล์ไขมัน ช่วยในการเก็บสะสมพลังงานความร้อนไม่ให้สูญเสียออกนอกร่างกาย และช่วยปกป้องร่างกาย ด้วยการดูดซับแรงกระแทกจากภายนอก
       ความรู้เรื่องผิวหนังจะช่วยให้คุณเข้าใจกลไกการทำงานของสารเคมีบางกลุ่ม ช่วยให้คุณเข้าใจว่า ปัญหาต่างๆ ของผิวหน้าว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร?   ซึ่งไว้บทความต่อไป ผมจะประยุกตฺ์เรื่องนี้เพื่อให้คุณมองเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น -- และเมื่อคุณเข้าใจดีแล้ว... คุณก็จะเลือกเองได้ถูกต้องว่า ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อะไรไปขาย และควรขายอะไรให้กับลูกค้าของคุณคนไหน? -- ไม่ใช่ซื้อมาแล้วขายไม่ออก ไม่รู้ว่าจะขายให้ใคร เพราะคุณเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มันมีประโยชน์จริงๆ อย่างไร?... เพราะมัวแต่ปล่อยให้ผู้ผลิตพูดชี้นำคุณอยู่ฝ่ายเดียว.

เครือข่ายสุขภาพดี 
สุขภาพกาย สุขภาพผิว ผิวแข็งแรงสมบูรณ์ ตามหลักวิชาการด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
บริหารและบริการโดย ไพโรจน์ จิวตระกูลวงศ์  ABO2717632 
โทร 086-225-4699   Line go2edc

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

น้ำในผิวมีความสำคัญ

ผิวกับน้ำ
     ร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยน้ำมากถึง 70% โดยจำนวนถึง 1 ใน 3 เป็นน้ำที่อยู่ในผิว ภาวะผิวขาดน้ำเกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแห้ง การรักษาความชุ่มชื่นภายในเซลล์ผิวและการส่งผ่านน้ำภายในเซลล์ผิวและระหว่างเซลล์ผิวเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความชุ่มชื่น การค้นพบ “อควาพอริน” ที่ได้รับรางวัลโนเบล ถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญไม่ใช่แค่สำหรับวงการวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่สำหรับวงการแพทย์ผิวหนังด้วย เพราะเราได้เรียนรู้ถึงกลไกการทำงานและการลำเลียงน้ำภายในเซลล์ผิวที่มีระบบซับซ้อนอย่างมาก และทำให้เราสามารถแก้ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื่นได้อย่างตรงจุดและถาวร
      สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น อย่าปล่อยให้ผิวแห้งจนนำไปสู่ปัญหาผิวอื่นๆ เช่น ผิวบอบบางแพ้ง่าย ริ้วรอยจากผิวขาดน้ำ ผิวหมองคล้ำ หรือแม้แต่รูขุมขนกว้าง ดังนั้นสาวๆ ควรเติมความชุ่มชื่นให้ผิวสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวแข็งแรงและดูอ่อนกว่าวัยด้วย

• ไม่เฉพาะแต่สาวๆ ที่ต้องทำงาน Outdoor เท่านั้นนะคะ สาวออฟฟิศอย่างเราๆ ก็เผชิญกับอาการผิวขาดน้ำได้ เนื่องจาก"เครื่องปรับอากาศ" เครื่องปรับอากาศจะดึงเอาความชื้นในอากาศออกไป และลดอุณหภูมิลง เพื่อให้เกิดความเย็น ซึ่งผลที่ได้คือความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศจะลดลง อากาศจึงแห้งขึ้น อาการเบื้องต้นที่แสดงว่าผิวคุณเริ่มขาดน้ำ มีดังนี้

• แต่งหน้าไม่ติด หรือไม่อยู่ทน
ลงครีมบำรุงไม่ค่อยซึม ครีมรองพื้นพอลงก็เกลี่ยยากและเป็นขุย จุดนี้ต่างจากผิวแห้งเพราะต่อให้ผิวแห้งแต่การดูดซึมก็ยังเป็นไปตามปกติ ยังสามารถเกลี่ยเครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ง่าย แต่ผิวขาดน้ำ ผิวจะไม่ดูดซึมเนื้อครีมที่มีความเข้มข้นได้เลย

• ผิวหน้าอิดโรย ไม่สดใส ไม่ยืดหยุ่น
ผิวขาดน้ำทำให้ผิวดูหยาบกระด้างขึ้น เวลาสัมผัสที่บริเวณผิวหน้า จะขาดความยืดหยุ่น ตึง ขาดความนุ่มกระชับและกร้านมากขึ้น นั่นเป็นเสมือนสัญญาณ S.O.S ที่ร่างกายส่งมาให้เราได้รับรู้แล้วนะคะ สำหรับรายที่รุนแรงอาจจะมีรอยจ้ำแดง เนื่องมาจาก โครงสร้างของผิวที่เป็นความยืดหยุ่นขาดน้ำอย่างแรง

วิธีการเติมน้ำให้ผิว
• สารบำรุงประเภท Hydration
ถ้าคุณใช้เครื่องสำอางค์ประเภท Anti-aging ที่มีส่วนผสมของวิตามิน เอ หรือเรตินอล ชนิดเข้มข้น ช่วยลดริ้วรอย หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่มีส่วนผสมของ hydrogen peroxide, retinoic acid, benzoyl peroxide, hexachlorophene เป็นต้น เพราะสารเหล่านี้ส่วนใหญ่จะยิ่งทำให้ผิวขาดน้ำมากขึ้น ให้หันมาเติมน้ำให้ผิวด้วย ครีมหรือเจลตระกูล Hydration มากขึ้นเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ กระบวนการของเซลล์ผิวหนัวก็จะมีประสิทธฺภาพมากขึ้น ง่ายต่อการบำรุง หรือแต่งหน้า ลดอาการขาดน้ำของผิวไปได้

• อย่านอนดึก
เรารู้ดีกันอยู่แล้วว่า พักผ่อนไม่เพียงพอไม่ดีต่อร่างกาย แน่นอนว่าไม่ดีต่อผิวคุณด้วยค่ะ สำหรับสาวขี้เกียจที่ไม่ชอบดูแลบำรุงผิวพรรณ ด้วยครีมหรือเครื่องสำอางค์หลายขั้นตอน ให้ใช้การพักผ่อน การนอน เป็นตัวหลักในการรักษาผิวพรรณก็ได้นะคะ เพราะการพักผ่อนอย่างเพียงพอจะทำให้ร่างกายได้มีการฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่งผลให้ผิวเราได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ด้วย แล้วถ้านอนในห้องปรับอากาศ อย่าลืมที่จะเติมความชุ่มชื้นให้ผิวก่อนนอน

• บำรุงผิวจากภายใน ดื่มน้ำให้มากขึ้น
การดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว เป็นการบำรุงจากภายในที่ทำได้ง่ายๆ เลยค่ะ ได้ประโยชน์ทั้งร่างกาย เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกาย เฉลี่ย 50 - 60 % ของน้ำหนักตัว วิธีคิดง่ายว่าวันนึงเราควรจะดื่มน้ำเท่าไหร่ คิดง่าย น้ำหนักตัวเป็นหน่วยกิโลกรัม ไปคูณกับ 30 จะได้ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน ซึ่งมีหน่วยเป็น มิลลิลิตร (เช่น 45 กิโลกรัม x 30 = 1,350 มิลลิลิตร หรือ 1.35 ลิตรต่อวัน) ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อนยังกับอะไรดี หากขาดน้ำในช่วงนี้ ไม่เพียงแค่ผิวจะไม่สวยแต่อาจจะป่วยได้

ผิวขาดน้ำ ขาดอย่างไร 
  อาการผิวขาดน้ำนั้นใกล้เคียงกับผิวแห้งมาก แต่จะต่างกันตรงที่จะมีทั้งความมันและแห้งแบบไม่เป็นเวลา เพราะกลไกของผิวเกิดการทำงานแบบชะงัก เนื่องจากขาดสารหล่อเลี้ยงที่สำคัญ นั่นคือน้ำ ที่เป็นส่วนประกอบพื้นฐานหลักของผิวหนัง ต่อให้ใช้เครื่องสำอางค์ราคาสูง แต่ถ้าขาดวินัยในการดื่มน้ำ หรือไม่หมั่นสังเกตสภาพผิวหน้าตัวเอง มุ่งแต่จะทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสอย่างเดียวแล้วละก็ จะได้ผิวที่ขาวซีด แห้ง ไม่สดใสเปล่งปลั่งนั่นเอง

เครือข่ายสุขภาพดี 
สุขภาพกาย สุขภาพผิว ผิวแข็งแรงสมบูรณ์ ตามหลักวิชาการด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
บริหารและบริการโดย ไพโรจน์ จิวตระกูลวงศ์  ABO2717632 
โทร 086-225-4699   Line go2edc

ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ชุดนี้ใช้แก้ปัญหาทั้งหมด แก้อย่างไรโปรดติดตาม

คิดค้นและเสาะหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภคจากธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์จากกรรมวิธีธรรมชาติ

ประโยชน์ ประหยัด ประสิทธิภาพ ปลอดภัย
ประกันความพอใจคืนเงินได้

เครือข่ายสุขภาพดี 
สุขภาพกาย สุขภาพผิว ผิวแข็งแรงสมบูรณ์ 

ตามหลักวิชาการด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
บริหารและบริการโดย 

ไพโรจน์ จิวตระกูลวงศ์ 
ABO2717632 

โทร 086-225-4699   Line go2edc