วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

น้ำในผิวมีความสำคัญ

ผิวกับน้ำ
     ร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยน้ำมากถึง 70% โดยจำนวนถึง 1 ใน 3 เป็นน้ำที่อยู่ในผิว ภาวะผิวขาดน้ำเกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแห้ง การรักษาความชุ่มชื่นภายในเซลล์ผิวและการส่งผ่านน้ำภายในเซลล์ผิวและระหว่างเซลล์ผิวเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความชุ่มชื่น การค้นพบ “อควาพอริน” ที่ได้รับรางวัลโนเบล ถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญไม่ใช่แค่สำหรับวงการวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่สำหรับวงการแพทย์ผิวหนังด้วย เพราะเราได้เรียนรู้ถึงกลไกการทำงานและการลำเลียงน้ำภายในเซลล์ผิวที่มีระบบซับซ้อนอย่างมาก และทำให้เราสามารถแก้ปัญหาผิวขาดความชุ่มชื่นได้อย่างตรงจุดและถาวร
      สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น อย่าปล่อยให้ผิวแห้งจนนำไปสู่ปัญหาผิวอื่นๆ เช่น ผิวบอบบางแพ้ง่าย ริ้วรอยจากผิวขาดน้ำ ผิวหมองคล้ำ หรือแม้แต่รูขุมขนกว้าง ดังนั้นสาวๆ ควรเติมความชุ่มชื่นให้ผิวสม่ำเสมอ เพื่อให้ผิวแข็งแรงและดูอ่อนกว่าวัยด้วย

• ไม่เฉพาะแต่สาวๆ ที่ต้องทำงาน Outdoor เท่านั้นนะคะ สาวออฟฟิศอย่างเราๆ ก็เผชิญกับอาการผิวขาดน้ำได้ เนื่องจาก"เครื่องปรับอากาศ" เครื่องปรับอากาศจะดึงเอาความชื้นในอากาศออกไป และลดอุณหภูมิลง เพื่อให้เกิดความเย็น ซึ่งผลที่ได้คือความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศจะลดลง อากาศจึงแห้งขึ้น อาการเบื้องต้นที่แสดงว่าผิวคุณเริ่มขาดน้ำ มีดังนี้

• แต่งหน้าไม่ติด หรือไม่อยู่ทน
ลงครีมบำรุงไม่ค่อยซึม ครีมรองพื้นพอลงก็เกลี่ยยากและเป็นขุย จุดนี้ต่างจากผิวแห้งเพราะต่อให้ผิวแห้งแต่การดูดซึมก็ยังเป็นไปตามปกติ ยังสามารถเกลี่ยเครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ง่าย แต่ผิวขาดน้ำ ผิวจะไม่ดูดซึมเนื้อครีมที่มีความเข้มข้นได้เลย

• ผิวหน้าอิดโรย ไม่สดใส ไม่ยืดหยุ่น
ผิวขาดน้ำทำให้ผิวดูหยาบกระด้างขึ้น เวลาสัมผัสที่บริเวณผิวหน้า จะขาดความยืดหยุ่น ตึง ขาดความนุ่มกระชับและกร้านมากขึ้น นั่นเป็นเสมือนสัญญาณ S.O.S ที่ร่างกายส่งมาให้เราได้รับรู้แล้วนะคะ สำหรับรายที่รุนแรงอาจจะมีรอยจ้ำแดง เนื่องมาจาก โครงสร้างของผิวที่เป็นความยืดหยุ่นขาดน้ำอย่างแรง

วิธีการเติมน้ำให้ผิว
• สารบำรุงประเภท Hydration
ถ้าคุณใช้เครื่องสำอางค์ประเภท Anti-aging ที่มีส่วนผสมของวิตามิน เอ หรือเรตินอล ชนิดเข้มข้น ช่วยลดริ้วรอย หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่มีส่วนผสมของ hydrogen peroxide, retinoic acid, benzoyl peroxide, hexachlorophene เป็นต้น เพราะสารเหล่านี้ส่วนใหญ่จะยิ่งทำให้ผิวขาดน้ำมากขึ้น ให้หันมาเติมน้ำให้ผิวด้วย ครีมหรือเจลตระกูล Hydration มากขึ้นเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ กระบวนการของเซลล์ผิวหนัวก็จะมีประสิทธฺภาพมากขึ้น ง่ายต่อการบำรุง หรือแต่งหน้า ลดอาการขาดน้ำของผิวไปได้

• อย่านอนดึก
เรารู้ดีกันอยู่แล้วว่า พักผ่อนไม่เพียงพอไม่ดีต่อร่างกาย แน่นอนว่าไม่ดีต่อผิวคุณด้วยค่ะ สำหรับสาวขี้เกียจที่ไม่ชอบดูแลบำรุงผิวพรรณ ด้วยครีมหรือเครื่องสำอางค์หลายขั้นตอน ให้ใช้การพักผ่อน การนอน เป็นตัวหลักในการรักษาผิวพรรณก็ได้นะคะ เพราะการพักผ่อนอย่างเพียงพอจะทำให้ร่างกายได้มีการฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่งผลให้ผิวเราได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ด้วย แล้วถ้านอนในห้องปรับอากาศ อย่าลืมที่จะเติมความชุ่มชื้นให้ผิวก่อนนอน

• บำรุงผิวจากภายใน ดื่มน้ำให้มากขึ้น
การดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว เป็นการบำรุงจากภายในที่ทำได้ง่ายๆ เลยค่ะ ได้ประโยชน์ทั้งร่างกาย เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบของร่างกาย เฉลี่ย 50 - 60 % ของน้ำหนักตัว วิธีคิดง่ายว่าวันนึงเราควรจะดื่มน้ำเท่าไหร่ คิดง่าย น้ำหนักตัวเป็นหน่วยกิโลกรัม ไปคูณกับ 30 จะได้ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน ซึ่งมีหน่วยเป็น มิลลิลิตร (เช่น 45 กิโลกรัม x 30 = 1,350 มิลลิลิตร หรือ 1.35 ลิตรต่อวัน) ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อนยังกับอะไรดี หากขาดน้ำในช่วงนี้ ไม่เพียงแค่ผิวจะไม่สวยแต่อาจจะป่วยได้

ผิวขาดน้ำ ขาดอย่างไร 
  อาการผิวขาดน้ำนั้นใกล้เคียงกับผิวแห้งมาก แต่จะต่างกันตรงที่จะมีทั้งความมันและแห้งแบบไม่เป็นเวลา เพราะกลไกของผิวเกิดการทำงานแบบชะงัก เนื่องจากขาดสารหล่อเลี้ยงที่สำคัญ นั่นคือน้ำ ที่เป็นส่วนประกอบพื้นฐานหลักของผิวหนัง ต่อให้ใช้เครื่องสำอางค์ราคาสูง แต่ถ้าขาดวินัยในการดื่มน้ำ หรือไม่หมั่นสังเกตสภาพผิวหน้าตัวเอง มุ่งแต่จะทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสอย่างเดียวแล้วละก็ จะได้ผิวที่ขาวซีด แห้ง ไม่สดใสเปล่งปลั่งนั่นเอง

เครือข่ายสุขภาพดี 
สุขภาพกาย สุขภาพผิว ผิวแข็งแรงสมบูรณ์ ตามหลักวิชาการด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
บริหารและบริการโดย ไพโรจน์ จิวตระกูลวงศ์  ABO2717632 
โทร 086-225-4699   Line go2edc

ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ชุดนี้ใช้แก้ปัญหาทั้งหมด แก้อย่างไรโปรดติดตาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น